บางคนไม่ได้เกิดมาเพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของร่างกาย สติปัญญา และสถานทางสังคม แต่นั่นไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ เพราะคุณค่าของคนเราอยู่ที่จิตใจ ความคิด และการกระทำ
อย่างเรื่องราวของน้องเจได แม้จะเกิดมาพร้อมภาวะดาวน์ซินโดรม แต่ทว่าจิตใจของน้องนั้นสูงส่ง และควรค่าแค่การนำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต
อย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่าในวัดนั้นมักจะเต็มไปด้วยหมาแมวที่ถูกนำมาปล่อยบ้าง ได้รับการช่วยเหลือบ้าง รวมทั้งสัตว์จรจัดที่เข้ามาอยู่เอง
แน่นอนว่าพวกมันเหล่านี้ต้องการการดูแล เลี้ยงดู เพื่อความอยู่รอด แต่ลำพังพระในวัดเองคงดูแลไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะวัดที่มีสัตว์จำนวนมากอย่างวัดที่อยู่ใกล้บ้านของน้องเจได
โชคดีที่จ้องเจไดนั้นเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน รักสัตว์ ดังนั้น เมื่อไหร่ที่ว่าง น้องมักจะมาช่วยดูแลสัตว์ในวัดอยู่เสมอ ทั้งยังเป็นเพื่อนและพี่เลี้ยงให้พวกมันด้วย
หลวงพี่ที่วัดดังกล่าวบอกว่าน้องเจไดจะเข้ามาอยู่ในวันตั้งแต่เช้า เพื่อเป็นพี่เลี้ยงให้กับเหล่าสัตว์ในวัด และจะกลับบ้านในเวลาเย็น น้องทำแบบนี้มานานถึง 10 ปีแล้ว
น้องเจไดกำลังบีบขนมแมวเลียให้เหล่าแมววัด
นอกเหนือจากดูแลสัตว์ในวัดแล้ว น้องเจไดยังช่วยงานวัดทุกอย่าง เรียกได้ว่า งานบุญไม่เคยขาด และน้องก็ทำได้ดีทุกงานเสมอ
สำหรับหมา-แมวในวัดนั้น เมื่อเห็นเจไดเดินเข้ามา พวกมันจะรีบวิ่งไปต้อนรับเขาด้วยความดีใจ จนทุกวันนี้ทั้งน้องเจไดและเหล่าหมา-แมว กลายเป็นเพื่อนซี้กันไปแล้ว
การได้เห็นน้องเจไดกับหมา-แมว เล่นด้วยกัน เป็นภาพที่ชวนอบอุ่นหัวใจมากๆ เพราะมันแสดงให้เห็นถึงหัวใจอันบริสุทธิ์ของคนคนหนึ่ง ที่ควรค่าแก่การชื่นชมและนำมาเป็นแบบอย่าง
ทั้งหมดนี้คือตัวตนที่แท้จริงของน้องเจได และเราเองก็ไม่รู้จะบรรยายอะไรนอกเหนือจากนี้อีกแล้ว เอาเป็นว่าให้ภาพต่อไปนี้เล่าเรื่องก็แล้วกัน
.
โมเมนต์น่ารักของน้องเจไดกับเหล่าหมาวัด
เมื่อพี่เจไดเข้าวัด..จะได้เจอภาพแบบนี้
បានបង្ហោះដោយ พระอำนาจ วรญาโณ នៅ អាទិត្យ 24 ឧសភា 2020
.
.
.
.
.
.
.
ที่มา พระอำนาจ วรญาโณ