“ส้มสลิด” ลูกแมวผู้ทำให้คุณตาเย็นชาและคุณยายปากแข็ง เปลี่ยนมาใช้เสียง 2 ใน 4 วัน

เวลาลูกหลานจะพาหมาหรือแมวเข้าบ้าน มักจะถูกห้ามโดยพ่อแม่หรือปู่ย่า ตายาย แต่เหมียวเห็นมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ที่คนห้ามนี่แหละ กลับกลายเป็นคนโอ๋หมา-แมว เหล่านั้นราวกับเป็นลูกแหน่

เช่นเดียวกับเรื่องราวที่ทาสแมวคนหนึ่งได้มาเปิดเผยให้วันนี้… โดยเธอบอกว่าพ่อกับแม่เสียงเปลี่ยนไป ตั้งแต่มีลูกแมวตัวจิ๋วเข้ามาอยู่ในบ้าน

 

 

เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อคุณจูนได้พบกับแมวตัวหนึ่งที่สวนของคุณลุง มันเป็นแมวหลงที่มักจะมาขอข้าวกิน ซึ่งคุณลุงก็ให้มันทุกครั้ง

และแล้ววันหนึ่ง คุณลุงและคุณจูนก็สังเกตเห็นความผิดปกติ เมื่อนมของเจ้าแมวหลงใหญ่ขึ้น ก่อนจะมารู้ว่านางกำลังท้อง (ท้องเล็กมาก จนดูไม่ออก)

 

 

เมื่อเจ้าเหมียวหลงคลอด ทุกคนกับไม่เห็นลูกๆ ของมัน อาจเป็นเพราะมันยังไม่เชื่อใจพวกเขามากพอ จึงไม่ได้พาลูกๆ มาด้วย

อย่างไรก็ตาม วันหนึ่ง คุณจูนตัดสินใจเดินตามมันไป แล้วก็เห็นมันกระโดดเข้ากล่อง จึงไปดูใกล้ๆ ก่อนจะเห็นลูกๆ ของมันอยู่ในกล่องใบนั้น

 

 

ตอนนั้นลูกแมวลืมตากันหมดแล้ว… คุณจูนอยากพาแมวหลงและลูกๆ กลับไปดูแลที่บ้าน แต่แม่ไม่ยอม วันนั้น เธอจึงต้องกลับบ้านไป โดยที่ภาพของแมวครอบครัวนั้นยังวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลา

สองวันผ่านไป คุณจูนทนไม่ไหว จึงหยิบผ้าพันคอของแม่มา แล้วก็ขับรถไปรับแมวหลงและเด็กๆ กลับมาบ้าน แม้รู้ว่าอาจจะถูกแม่ดุก็ตาม

 

ส้มสลิดผู้กินไม่รู้จักอิ่ม จนท้องป่องแบบนี้

 

เมื่อมาถึงบ้าน ทันทีที่แม่เห็นก็พูดขึ้นมาว่า “เอามาทำไม เอาไปเก็บไว้ที่เดิมเลย” แต่คุณจูนก็ยืนยันที่จะเก็บพวกมันไว้ ส่วนแมวหลงนั้น ไม่ได้สนใจที่แม่ลูกกำลังเถียงกันเลย มันนอนชิลล์ให้นมลูก ราวกับว่านี่เป็นบ้านของมันยังไงอย่างนั้น

 

 

แม้ปากจะด่าลูกว่าเอาแมวมาทำไม แต่ตัวแม่เอง กลับนั่งเฝ้า นอนเฝ้าครอบครัวแมวหลงซะงั้น ส่วนคุณพ่อของคุณจูน เป็นคนรักสัตว์อยู่แล้ว จึงไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ไม่ได้แสดงออกด้วย

 

 

เวลาผ่านไป คุณแม่เริ่มใจอ่อนลง จึงบอกกับคุณจูนว่าถ้าอยากเลี้ยง ก็เอาแค่ตัวเดียว ที่เหลือเอาไปเก็บไว้ที่เดิม หรือไม่ก็หาบ้านให้พวกมัน

 

 

ตอนแรกคุณจูนเลือกไม่ได้ เธออยากเก็บพวกมันไว้ทั้งหมด คุณแม่เลยตัดปัญหาด้วยการเลือกให้ซะเลย โดยเธอได้เลือกนุ้งแมวส้มตัวนี้

ตอนแรกคุณจูนตั้งชื่อให้มันว่า เขียวหวานปลากราย แต่เรียกไปเรียกมา รู้สึกมันยาวเลย เลยเปลี่ยนเป็นส้มสลิด 

 

นุ้งส้มสลิด ติดผ่าพันคอของแม่มาก อาจจะเป็นเพราะนี่เป็นผืนแรกที่มันได้สัมผัส (ผ้าที่คุณจูนเอาไปรับครอบครัวแมวในวันนั้น)

1 วันผ่าน 2 วันผ่านไป ส้มสลิดมีความซุกซนมากขึ้นเรื่อยๆ มันขี้เล่น ดื้อ และข้ออ้อนในเวลาเด่ียวกัน ที่สำคัญ นางติดผ้าเน่าหนักมาก

 

 

ผ่านไปประมาณ 3-4 วัน บรรยากาศในบ้านก็เริ่มเปลี่ยน เมื่อพ่อกับแม่ให้ความสนใจกับส้มสลิดมากขึ้น และไม่ค่อยออกไปเม้ามอยกับเพื่อนบ้านเหมือนเช่นเคย

 

 

ไม่เพียงเท่านั้น เสียงของพ่อกับแม่ยังเปลี่ยนไปด้วย จากเสียงเรียบๆ ปกติ ก็กลายเป็นเสียง 2 ไปจนถึง 8 9 10 แต่เสียงนี้ ทั้งคู่ไม่ได้ใช้กับลูกนะ พวกเขาใช้กับส้มสลิด…

 

 

ทุกวันนี้ ส้มสลิดแทบจะกลายเป็นลูกรักของพ่อกับแม่ บางครั้งคุณพ่อก็จะไปนั่งคุยกับน้อง เหมือนคุยกับลูก ส่วนคุณแม่ จะทำอะไร ก็จะมาทำใกล้ๆ มิ้วน้อย และชวนมันคุยเรื่องสัพเพเหระ

 

ไหนหลานตา วันนี้กินนมยังลูก

 

ล่าสุด คุณแม่ของคุณจูนคุยกับส้มสลิด โดยแทนตัวเองว่าแม่ และเรียกนุ้งแมวว่าลูก อย่างคลิปด้านล่างนี้ แม่พูดว่า “มาลูก เดี๋ยวแม่ห่มผ้าให้” 

 

 

ผ้าพันของแม่กลายเป็นผ้าเน่าของส้มสลิด

 

สำหรับนุ้งส้มสลิดนั้น กิจวัตรประจำวันของมันมีอยู่ 3 อย่าง คือ กิน นอน และเล่น เวลากินจะกินจนต้องแทบไม่เหลือที่ว่าง เวลานอนก็นอนนานจนนึกว่าตาย ส่วนเวลาเล่น ก็เล่นจนกว่าจะหมดแรง

 

 

มีอยู่ครั้งหนึ่ง นางไปหมดอยู่ที่หลังกระดาษ ทำเอาทุกคนใจหายหนักมาก พากันออกตามหา เพราะคิดว่ามันอาจจะถูกหมาคาบไป

แต่เจออีก มาแอบอยู่ในซอกกระดาษหลังซะงั้น

 

 

นอนอีกแล้ว

 

พี่จูน มาเล่นกับหนูหน่อย

 

อ่าว หลับเฉย

 

ส่วนนี่ ครอบครัวของนุ้งส้มสลิด ตอนนี้ ได้ย้ายกลับไปอยู่ที่สวนของคุณลุงแล้ว โดยคุณจูนจะแวะไปหาพวกมันทุกวัน พร้อมทั้งหาบ้านให้

 

.

.

 

นุ้งส้มสลิด ผู้ถูกเลือกโดยคุณแม่

 

ที่มา June Mithuna

คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง...

SHARE

เรื่องราวสัตว์โลกที่น่าสนใจ...