เมื่อไม่นานมานี้มีเรื่องน่าเศร้าของลูกสิงโตตัวน้อย ซึ่งถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์ มันถูกพรากไปจากแม่ขณะที่มีอายุได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
จากนั้นสิงโตน้อยก็ถูกบังคับให้ถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว โดยที่ไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม ที่เลวร้ายที่สุดคือ มันถูกหักขา ถูกทำให้กระดูกสันหลังบาดเจ็บ เพื่อป้องกันไม่ให้หนีหรือทำร้ายนักท่องเที่ยวระหว่างที่พวกเขาถ่ายรูปกับมัน
นอกจากนี้มีรายงานว่าสิงโตน้อยถูกตี ถูกทำร้ายเป็นประจำ จนกลายเป็นสัตว์ที่หวาดกลัวมนุษย์ และไม่มีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
โชคดีที่หน่วยงานด้านสิทธิสัตว์ทราบเรื่องนี้ จึงได้เข้าไปช่วยมันออกมาจากคนใจร้ายและพาไปหาสัตวแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน ก่อนจะสายเกินไป
สัตวแพทย์และทีมงานได้ทำงานกันอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย พวกเขาทุ่มเทแรงกาย แรงใจในการช่วยเหลือลูกสิงโตผู้น่าสงสาร
ซึ่งพร้อมกันนี้ พวกเขาได้มอบความรัก ความเอาใส่ใจให้มันด้วย เพื่อให้มันไว้ใจมนุษย์อีกครั้ง
ต่อมา ทีมงานได้ตั้งชื่อให้ลูกสิงโตว่า Simba
ตั้งแต่รู้ว่ามีคนพยายามช่วยเหลือ Simba ก็กลับมามีความหวังอีกครั้ง มันยอมให้สัตวแพทย์ทำการรักษา โดยไม่มีท่าทีขัดขืนเลย ราวกับรู้ว่าพวกเขากำลังช่วยให้มันดีขึ้น
เนื่องจากก่อนหน้านี้ Simba ไม่ได้รับการปฏิบัติที่ควรจะเป็น และไม่มีโกกาสได้เรียนรู้ทักษะต่างๆ ตามวิถีสัตว์ป่าหรือสิงโต ดังนั้น ตอนนี้จึงมีอีกหลายอย่างที่มันต้องเรียนรู้ เช่น เดิน เล่น และการรับควมมรักจากมนุษย์
การได้อยู่กับมนุษย์ที่ดีทำให้ Simba กลายเป็นลูกสิงโตธรรมดาตัวหนึ่ง ที่มีความซุกซน ขี้เล่น และทำให้ทุกคนที่อยู่ใกล้รู้สึกอบอุ่นหัวใจไปด้วย
สำหรับคนที่ช่วย Simba คือ Karen Dallakyan ซึ่งเป็นสัตวแพทย์ในรัสเซีย เพื่อนๆ อาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขาคนนี้บ้างแล้ว เพราะที่ผ่านมาเขาได้ช่วยเหลือสัตว์นับร้อย และเรื่องราวของเขาก็ถูกแชร์ในสื่อโซเชียลบ่อยๆ
Karen ไม่เพียงแค่ช่วยสัตว์ออกมาจากสถานการณ์ที่น่ากลัว แต่เขายังหาที่พักพิงดีๆ อาหารดีๆ ให้ จนกว่าพวกมันกลับมามีสุขภาพแข็งแรง ที่สำคัญที่สุดคือ เขาได้มอบความรักที่แท้จริงให้ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่พวกมันสมควรได้รับ
สำหรับใครที่สนใจการทำงานของ Karen สามารถติดตามได้ที่อินสตาแกรม karendallakyan
จากประวัติผู้ช่วยเหลือ เพื่อนๆ มั่นใจได้เลยว่าไม่มีอะไรต้องห่วงเกี่ยวกับ Simba อีกแล้ว เพราะมีเพียงสิ่งดีๆ ที่อนาคตที่ดีรอมันอยู่ข้างหน้า
หวังว่าเรื่องราวของ Simba จะสร้างความตระหนักให้กับผู้คนเกี่ยวกับการทารุณกรรมสัตว์ และหยุดสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวที่ใช้สัตว์เป็นเครื่องมือ ด้วยการไม่ไปเที่ยวที่นั่นหรือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ที่มา boredpanda
