มิตรภาพระหว่างเด็กกับสัตว์เลี้ยงมักจะสวยงามเสมอ พวกเขาเป็นคู่หูที่เข้าใจกันได้อย่างลึกซึ้งแม้ต่างภาษา และมันเป็นความผูกพันที่ผู้ใหญ่อย่างเราอาจไม่เข้าใจ แต่เราสัมผัสถึงความงดงามนั้นได้
เช่นเดียวกับครอบครัวของ Robin Pederson Brazill เมื่อเธอพาลูกน้อย Raven กลับมาบ้านครั้งแรกหลังจากคลอดในโรงพยาบาล เจ้าตูบ Jack ก็ตกหลุมรักเธอทันที
Jack ไม่ได้เพิ่งตกหลุมรักเด็กน้อยตอนเห็นหน้าครั้งแรก แต่มันรักเธอตั้งอยู่ในท้องแม่แล้ว โดยตอนแม่อุ้มท้องนั้น เจ้าตูบจะคอยอยู่ข้างคุณแม่ตลอดเวลา และเดินตามเธอไปทุกที่
ระหว่างที่คุณแม่นั่งให้นมทารกน้อยบนโซฟาหรือบนเตียง เจ้าตูบจะกระโดดขึ้นไปนั่งด้วย แล้วนอนขดตัวใกล้ๆ กับเท้าเล็กๆ ของน้องสาว
เมื่อ Raven โตขึ้นอีกนิดและเริ่มคลานบนพื้น Jack จะนอนหงายข้างๆ เธอ และชี้เท้าขึ้นกลางอากาศ ไม่ว่าเด็กน้อยจะอยู่ที่ไหน เจ้าตูบจะอยู่ที่นั่นด้วยเสมอ
เมื่อเห็นภาพสุดอบอุ่นแบบนี้ Robin ในฐานะช่างภาพ ก็อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปพวกเขาเก็บเอาไว้ ตอนแรกเธอแค่ถ่ายเล่นๆ เหมือนพ่อแม่ทั่วไปที่เห่อลูกน้อย…
แต่ยิ่งถ่าย คุณแม่ยิ่งเห็นว่ามิตรภาพของลูกสาวกับ Jack มีความพิเศษ ในที่สุด เธอก็ตัดสินใจถ่ายรูปพวกเขาอย่างจริงๆ จังๆ โดยตั้งชื่อภาพชุดนี้ว่า The Story of Raven and Jack
Jack เป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่า Raven จะจับน้องหมาแต่งตัวแบบไหน หรือให้ทำอะไร มันจะเล่นกับเธอโดยไม่บ่นสักคำ
สำหรับ Jack นั้น ครอบครัวมักจะพูดเสมอว่ามันเป็นฝ่ายเลือกพวกเขา…
ย้อนกลับไปตอนที่ครอบครัวเข้าไปเยี่ยมศูนย์พักพิงสัตว์ Jack แกล้งทำเป็นขาหัก เพื่อให้ครอบครัวเข้าไปอุ้มมันและประคองมันเดินเหมือนทารกวัยหัดเดิน
ตอนนั้นเองที่ Robin รู้ว่า Jack เป็นสุนัขที่พิเศษ ตอนที่พวกเขาเอามันกลับวางบนพื้นคอนกรีตเหมือนเดิมและปิดประตู แววตาก็ของมันก็ดูเศร้าขึ้นมาทันที ทำให้ Robin รู้สึกว่าไม่สามารถทิ้งมันไว้ที่นี่ได้
เมื่อ Robin กับลูกชายอีก 2 คนเดินไปที่โต๊ประชาสัมพันธ์ Jack ก็พยายามดันประตูกรงเพื่อหนีออกมาหาพวกเขา คุณแม่จึงเข้าไปดูมันอีกครั้ง แล้วก็ได้เห็นแววตาของมันที่บ่งบอกว่ามันต้องการเธอมากแค่ไหน
“เจอแบบนี้ เราจะไม่พามันกลับบ้านได้อย่างไร” Robin บอก
วันนั้น Jack กลายเป็นของขวัญที่ไม่คาดคิดสำหรับครอบครัวของ Robin และมันก็ไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง ทั้งซื่อสัตย์ อ่อนโยน และรักทุกคน
Robin บอกว่า “มันเป็นลูกของฉัน เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของลูกสาวฉัน และเป็นส่วนสำคัญของครอบครัวเรา”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ที่มา boredpanda
