ลำพังมันก็ยากอยู่แล้วสำหรับแมวจร ที่ต้องดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด แต่ลองจินตนาการดูว่าเมื่อมีลูก พวกมันต้องลำบากเพิ่มขึ้นอีกแค่ไหน ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมแม่แมวบางตัวจึงทิ้งลูก
อย่างไรก็ตาม มีแม่แมวจรอีกหลายตัวที่พยายามปกป้องลูกน้อยจนถึงที่สุด แม้จะลำบากมากแค่ไหนก็ตาม เหมือนเจ้าเหมียวตัวนี้
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่วัดแห่งหนึ่งในเมืองซีอาน ประเทศจีน เมื่อแม่แมวได้คลอดลูก แต่น่าเศร้า ลูกของมันไม่มีการตอบสนองใดๆ
อย่างไรก็ตาม แม่แมวไม่อาจยอมรับความจริงที่ว่าลูกมันได้เสียไปแล้ว มันจึงคาบลูกวิ่งไปมา เพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้คนในละแวกนั้น
จนกระทั่งนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาเที่ยวชมวัด เห็นเจ้าเหมียวตัวนั้นเข้า พวกเขาจึงรีบเข้าไปตรวจสอบมันทันที แต่มันก็สายเกินไป เพราะลูกแมวไม่หายใจแล้ว
สิ่งเดียวที่นักเที่ยวสามารถช่วยได้คือ การเอาน้ำ เอาอาหารให้แม่แมว ขณะที่แม่แมวยังคงเฝ้าร่างไร้วิญญาณของลูกอยู่ไม่ห่าง
เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้ที่พบเห็นถึงกับน้ำตาซึม พวกเขารู้สึกเห็นใจแม่แมวมาก มันสูญเสียลูกตั้งแต่วันแรกที่คลอด มันดูสับสน เพราะไม่สามารถยอมรับได้ และไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
จากการสังเกตร่างไร้วิญญาณที่แข็งทื่อของลูกแมว ผู้พบเห็นคิดว่ามันน่าจะหนาวตาย เนื่องจากในตอนกลางคืน อากาศจะหนาวมาก และแม่แมวเองก็ไม่มีที่พักพิงที่ให้ความอบอุ่นเพียงพอด้วย
ระหว่างที่แม่แมวเฝ้าศพลูก มีแมวส้มตัวหนึ่งเดินเข้ามา โดยที่แม่แมวไม่ได้มีท่าทีหวงแต่อย่างไร จึงคาดว่ามันน่าจะเป็นพ่อแมว
ทั้งนี้ แม่แมวยังคงท้องป่องอยู่ บางทีมันอาจจะยังคลอดลูกไม่หมด และอาจจะคลอดลูกที่เหลือในเร็วๆ นี้ ยิ่งไปกว่านั้น มันเดินเข้าไปหามนุษย์ เหมือนจะขอความช่วยเหลือ
เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นไม่คิดว่าต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ พวกเขาจึงไม่ได้เตรียมการใดๆ อย่างไรก็ตาม พวกเขาพยายามทำในสิ่งที่ทำได้ในเวลานั้น
พวกเขาได้หาลังมาทำเป็นที่พักพิงชั่วคราวให้แม่แมว โดยปูผ้าไว้ข้างใน อย่างน้อยมันก็อบอุ่นกว่าอยู่ข้างนอก และเพิ่มโอกาสรอดให้ลูกๆ ที่จะเกิดด้วย
เมื่อนักท่องเที่ยวไปถามทางวัดเกี่ยวกับแมวตัวนี้ ได้คำตอบว่ามันน่าจะถูกนำมาทิ้งที่นี่ แต่พวกเขาไม่ทราบเหมือนกันว่ามันถูกทิ้งก่อนหรือหลังท้อง
ตอนนี้ ทุกคนได้แต่ภาวนาให้ลูกแมวที่กำลังจะเกิดรอด เพื่อที่แม่แมวจะไม่ต้องเสียใจซ้ำแล้วซ้ำอีก และหวังว่าสักวัน จะมีคนใจดีรับมันไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยกว่านี้
ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนใจไม่ใช่น้อย ดังนั้น เราจึงอยากให้ทุกคนมีความเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก เพื่อที่จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีก
ที่มา toutiao