นับตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณต้อนรับสุนัขเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน สุนัขจะคิดว่าคุณคือครอบครัว และพวกมันพร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณในทุกสถานการณ์ ดังนั้น ในฐานะเจ้าของก็ควรปฏิบัติกับพวกมันเหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง
แน่นอนว่าทุกวันนี้มีตัวอย่างให้เห็นมากมายเกี่ยวกับคนที่รักน้องหมาเหมือนคนในครอบครัวจริงๆ หนึ่งในนั้นคือพ่อและแม่ของน้องฮันนี่หมู
น้องฮันนี่หมูอาศัยอยู่กับคุณหญิงและคุณมังกรแถวโชคชัย 4 กรุงเทพฯ โดยทั้งคู่ได้รับน้องมาอยู่ด้วยตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นแฟนกัน ซึ่งขณะนั้นน้องมีอายุไม่ถึง 1 เดือน
สำหรับฮันนี่หมูนั้น เป็นสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ นิสัยน่ารัก ขี้อ้อน เรียบร้อย ชอบเล่นกับเพื่อน 4 ตัวเล็กๆ ไม่ดุ และเป็นมิตรกับทุกคน ปัจจุบันอายุ 3 ขวบแล้ว
เมื่อไหร่ที่ว่างจากการเล่น น้องหมาจะชอบเข้าหาพ่อหรือแม่ เพื่ออ้อนให้พวกเขาจูบหรือกอด แน่นอนว่าคุณหญิงกับคุณมังกร ต้องตอบสนองความต้องการของมันทุกครั้ง เพราะถ้าปฏิเสธมันจะโวยวายลั่นบ้านเลย
เวลาคุณหญิงกับคุณมังกรไปที่ไหน ก็จะพาฮันนี่หมูไปด้วยทุกที่เสมอ ไม่ว่าจะไปกินข้าว กินกาแฟ ช้อปปิ้ง รวมไปถึงพาไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วย
นอกจากนี้ฮันนี่ยังได้มีส่วนร่วมในทุกๆ กิจกรรมของทั้งคู่ เช่น เทศกาลคริสมาสต์ ลอยกระทง เป็นต้น โดยคู่รักจะเลือกร้านหรือสถานที่ที่เค้าอนุญาตให้พาน้องหมาเข้าได้
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าฮันนี่หมูค่อนข้างเป็นหมาที่เรียบร้อย อีกอย่างนางเป็นผู้หญิงด้วย นางเลยไม่ชอบอะไรที่สกปรก เช่น ถ้าพาไปเดินเล่นในที่ที่สกปรก น้องจะไม่ยอมเดิน ต่อให้ลากไป น้องก็จะไม่ยอมขยับเด็ดขาด
นับตั้งแต่วันแรกคุณหญิงกับคุณมังกรรักและดูแลน้องฮันนี่หมูเหมือนลูกน้อยคนหนึ่ง ดังนั้น เมื่อถึงวันสำคัญ พวกเขาจึงไม่พลาดที่จะให้น้องมีส่วนร่วมด้วย
วันสำคัญที่ว่านี้คือ วันแต่งงานของทั้งคู่นั่นเอง
การที่จะให้น้องหมาเป็นส่วนหนึ่งของงานนั้น หมายความว่าคุณหญิงกับคุณมังกรต้องเลือกสถานที่ที่สามารถพาน้องเข้าไปด้วยได้
ในที่สุดพิธีวิวาห์ของทั้งคู่ก็ได้ถูกจัดขึ้นที่โรงแรม W Bangkok House on Sathorn เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ปี 2019 โดยใช้แฮชแท็กสำหรับงานแต่งนี้ว่า #YingMkHuskilyEverAfter
ระหว่างที่จัดเตรียมงานและทำการซักซ้อมต่างๆ น้องฮันนี่หมูแทบไม่ต้องซ้อมอะไรเลย เพราะมันต้องทำหน้าที่เป็นสักขีพยานให้พ่อแม่กับแม่ คือ ไปนั่งสวยๆ ในงานก็พอ
กระทั่งวันงานมาถึง บรรยายกาศภายในงานอบอวลไปด้วยความรัก และขณะที่แขกเดินทางมาเข้างานนั้น น้องฮันนี่หมูได้ต้อนรับทุกคนอย่างเป็นมิตร ราวกับเป็นเจ้าของงานงั้นแหละ
ตลอดที่มีการประกอบพิธี น้องฮันนี่หมูไม่ได้ก่อกวน หรือทำการรบกวนใดๆ ตรงกันข้าม มันนั่งข้างพ่อแม่ ด้วยกิริยาที่เรียบร้อย ตามแบบกุลสตรีไทย
จะมีก็แต่บางช่วงของพิธีที่ยืดยาวเกินไปสำหรับสัตว์เลี้ยง นางจะลุกไปแจกความสนใจให้แขกในงาน เพื่อแก้เบื่อ แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือของขวัญพิเศษที่แขกได้รับกลับไปในวันนั้น
เมื่อพิธีต่างๆ เสร็จสิ้น ก็ถึงช่วงเวลาแห่งการบันทึกภาพ แน่นอนว่าน้องฮันนี่หมูไม่พลาดอีกเช่นเคย มันไปนั่งถ่ายรูปกับพ่อแม่ พร้อมกับยิ้มหวานๆ ให้กล้อง จนช่างภาพแทบหลุดโฟกัสเลยทีเดียว
ว่าแล้วก็มาชมภาพบรรยากาศวันนั้นกันเลยดีกว่า
ถึงวันนี้จะเป็นวันของพ่อกับแม่ แต่น้องไม่ได้ถูกลืมนะ
ปล่อยให้แขกรดน้ำสังข์ไปก่อน เดี๋ยวน้องขอคนสุดท้าย
.
ทำไมไม่ให้หนูเป็นประตูเงินประตูทอง หนูอยากได้ซองอะ
ถ่ายรูปกับเพื่อนๆ พ่อ มันก็จะเขินๆ หน่อย
ยิ้มที แย่งซีนทุกคน
เอ่อ นี่งานแต่งหรืองานสัตว์เลี้ยงกันแน่
รอพ่อแม่ถ่ายรูป
ร่วมขบวนแห่ขันหมากตั้งแต่ปากซอย จนมาถึงหน้างานเลย
ไม่เอาลูก ไม่ชวนแม่เม้ามอยนะ เก็บไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยคุยกันคืนนี้เนอะ
เมื่อไหร่งานจะเสร็จนะ หมูหิว
ย้อนกลับไปตอนถ่ายพรีเวดดิ้ง น้องก็ไม่พลาดเด้อ
.
.
.
.
แหม่ แม่เผลอไม่ได้เลยนะ
ตอนถ่ายกับแม่…
ตอนถ่ายกับพ่อ
มีหญิง มีมังกร ก็ต้องมีหมู
อยากแต่งบ้างอะแม่ หาเจ้าบ่าวให้หนูที
สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากติดตามน้องฮันนี่หมู สามารถติดตามได้ที่อินตาแกรม hunnymhoothehusky และเฟซบุ๊ก HunnyMhoo thehusky
ที่มา facebook