ใครจะไปคิดว่าแมวที่ถูกพบโดยบังเอิญ จะกลายเป็นผู้เปลี่ยนชีวิตครอบครัวมนุษย์ไปตลอดกาล…
เรากำลังพูดถึง Jeff แมวที่ถูกพบโดยบังเอิญในฟาร์มเล็กๆ ของครอบครัวครอบครัวหนึ่ง และตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา มันก็ตัดสินใจจะอยู่บ้านของครอบครัวนี้ โดยไม่ถงไม่ถามพวกเขาสักคำ
เด็กๆ ของบ้านเป็นคนเจอเจ้าเหมียวตัวนี้ก่อน มันทั้งตัวเล็ก น่ารัก และไม่ยอมไปที่อื่น ทางครอบครัวเองก็ไม่ได้ไล่มันแต่อย่างใด ตรงข้าม พวกเขาตั้งชื่อให้มันว่า Jeffery Albert Batman หรือเรียกสั้นๆ ว่า Jeff
ทางครอบครัวบอกว่าเป็นคุณก็คงปฏิเสธไม่ลง พวกเขาจึงพามันเข้าบ้าน ให้อยู่ในห้องที่อบอุ่น มีน้ำ อาหารสะอาดให้กิน และเด็กๆ ทั้ง 3 คนของบ้านก็ชอบมันมากด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ เจ้าเหมียวยังผูกมิตรกับสุนัขของบ้านด้วย จนทำให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ยกเว้นแต่… ผู้เป็นพ่อที่ยืนกรานว่า Jeff ต้องอยู่ที่ยุ้งฉางเท่านั้น ซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะเจ้าเหมียวดูเหมือนจะชอบแบบนั้นพอดี
แม้ทุกคนจะเชื่อฟังพ่อ แต่ Jeff กลับเป็นตัวเดียวที่ไม่คิดแบบนั้น มันพยายามเอาชนะพ่อด้วยการทำให้เขาคล้อยตามมัน โดยพยายามเข้าหาเด็กน้อยของบ้าน ด้วยความอ่อนโยน เพื่อให้เห็นว่ามันพร้อมจะเป็นสมาชิกที่ดีของบ้าน
นอกจากนี้ Jeff ยังมีความสามารถพิเศษในการทำให้คนเกลียดแมว หันมารักแมว และความโดดเด่นของมันอีกอย่างคือ มันชอบไปหาสัตวแพทย์… จริงดิ บ้าไปแล้ว
ไม่เพียงแค่คนในครอบครัวที่ Jeff รัก แต่ในทุกๆ เช้า มันจะนั่งรอบุรุษไปรษณีย์ด้วยความกระตือรือร้น เพื่ออ้อนให้เขาลูบท้องให้
แม้ Jeff จะอยู่ในยุ้งฉางเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อมีโอกาสมันก็จะเข้ามานอนบนโซฟาในบ้าน พอตกเย็น มันก็จะทำในสิ่งที่ชอบรอบๆ ยุ้งฉาง นั่นคือ การช่วยกำจัดหนูที่เข้ามาแทะพืชผล
ดูเหมือน Jeff จะทำประโยชน์ให้ครอบครัวด้วยการคอยกำจัดหนูให้ แต่ทุกคนเริ่มจะไม่แน่ใจ เมื่อครั้งหนึ่งพวกเขาเห็นหนูวิ่งผ่านหางของเจ้าเหมียว แทนที่จะรีบตะครุบเหยื่อ เจ้าเหมียวกลับดูสับสน ราวกับว่าไม่เคยล่าหนูมาก่อน
เท่านั้นยังไม่พอ บางทีเมื่อเห็นว่าหนูบาดเจ็บ แทนที่จะรับจัดการ มันกลับปล่อยไปซะงั้น
ครอบครัวยังบอกอีกว่า Jeff ซุ่มซ่ามมากๆ มันชอบตกลงมาจากที่สูง แบบที่ไม่น่าเป็นไปได้ บางทีก็กลิ้งตกบันได หรือไม่ก็สะดุดจนตีลังกาม้วนตัวแบบไม่ได้ตั้งใจ เมื่อมันวิ่งเร็วเกินไป
แม้ Jeff จะไม่เป็นอย่างที่คิดและแตกต่างจากแมวทั่วไปเล็กน้อย แต่ทุกคน รวมถึงพ่อ ก็ยอมรับมันในฐานะสมาชิกของครอบครัว
Jeff พัฒนาความสัมพันธ์กับเด็กๆ ในบ้านได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกับเด็กชายวัย 5 ขวบ ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนซี้ที่ตัวติดกันตลอดเวลา โดยเจ้าเหมียวจะเดินตามเขาไปทุกที่เหมือนเงาเล็กๆ
ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี จนกระทั่งวันหนึ่ง Jeff มีอาการชักอย่างรุนแรง ซึ่งมันเองก็สับสนกับเหตุการณ์นี้เช่นกัน เมื่อพ่อมาเห็นเข้า เขากะจะเข้าไปช่วยมัน แต่ด้วยความสับสน ทำให้เจ้าเหมียววิ่งหนี ก่อนจะหายตัวไป
ครอบครัวพยายามออกตามหา Jeff แต่ไม่เจอวี่แววของมันเลย ในช่วงเวลานี้ ลูกๆ ของบ้านเสียใจมากๆ พวกเขาพากันร้องไห้ เพราะคิดถึงเจ้าเหมียว
นั่นทำให้ผู้เป็นพ่อแม่หัวใจแตกสลายไปด้วย กระทั่งลูกๆ เข้านอน สองสามีภรรยาได้ออกตามหา Jeff อีกครั้ง แต่ก็ผิดหวังอีกครั้ง เพราะไม่เจอมัน
ก่อนเข้าบ้านวันนั้น ทั้งคู่ได้ทิ้งอาหารแมวไว้ข้างนอก เผื่อว่าเจ้าเหมียวจะกลับมากินในเวลากลางคืน
เช้าวันรุ่งขึ้น ผู้เป็นแม่หวังว่าจะเห็น Jeff กลับบ้าน แต่แล้วทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะเจ้าเหมียวยังไม่กลับมา วันนั้น เธอจึงออกไปทำงานพร้อมกับใจที่บอบช้ำ
แต่แล้ว ในบ่ายวันเดียวกันนั้น เมื่อคุณแม่กลับมาบ้าน เธอก็พบกับภาพอันเหลือเชื่อ โดยลูกชายของเธอ กำลังนั่งกอด Jeff และลูบมันเบาๆ เพื่อปลอบประโลม
แต่การกลับมาครั้งนี้ ครอบครัวได้พบว่ามันเป็นโรคที่ไม่รักษาได้ หลังจากที่พาไปหาสัตวแพทย์ มันมีอาการกระตุกอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งบางครั้งมันก็เผลอทำร้ายเด็กๆ แต่ทุกคนก็อดทนกับมัน เพราะเข้าใจว่า Jeff มันไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อย้อนกลับไปคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา ครอบครัวตระหนักว่า Jeff ได้มอบความรัก ความสุขให้พวกเขามากมายอย่างไม่มีเงื่อนไข
ดังนั้น พวกเขาจึงตัดสินใจจะตอบแทนมันด้วยการช่วยมันเท่าที่จะทำได้ แม้รู้ว่าอาการนี้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดก็ตาม ตรงกันข้าม อาการของมันทรุดลงเรื่อยๆ จนบางครั้งต้องขอความช่วยเหลือจากครอบครัว
ระหว่างนี้ Jeff พยายามทำเหมือนตัวเองไม่เป็นไร และมักจะทำทุกอย่างด้วยตัวเองก่อน หากไม่ไหวจริงๆ ก็จะส่งสัญญาณบอกครอบครัว
นอกจากช่วยให้ Jeff ได้รับความสะดวกสบายแล้ว ทุกคนในครอบครัวยังพยายามที่จะใช้เวลากับเจ้าเหมียวให้มากที่สุด เพราะรู้ว่ามันมีเวลาเหลือน้อยลงทุกที พวกเขาจะอยู่เคียงข้างมันจนลมหายใจสุดท้าย
ที่มา inspiremore
