ถ้าคนเราจะรักสัตว์ ไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไรหรืออยู่ในสังคมแบบไหน เราก็ยังรักสัตว์และยินดีให้ความช่วยเหลือมันแบบเต็มที่อยู่ดี
เหมือนอย่างด็อกเตอร์ Roslee Abbas ชายชาวมุสลิมอายุ 55 ปีจากประเทศมาเลเซีย แม้ว่าชาวมุสลิมส่วนใหญ่ในประเทศของเขาจะหลีกเลี่ยงการยุ่งกับหมา เขากลับยินดีเข้าไปช่วยพวกมันเองแบบไม่รังเกียจ
ตอนที่ Abbas ยังทำงานเป็นวิทยากรให้กับมหาวิทยาลัย University of Sabah อยู่ เขาใช้เงินเดือนกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ที่ได้ไปกับการช่วยเหลือสัตว์จรจัด ด้วยการจ่ายค่าอาหารและยาให้พวกมัน
คนที่ยอมใช้เงินเดือนของตัวเองเกือบทั้งหมดไปกับสัตว์จรจัดแบบนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาต้องใจดีมากเป็นแน่ ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่ยอมเสียเงินมากมายขนาดนี้กับสัตว์ที่ไม่ใช่สัตว์เลี้งหรอก
และแม้ว่าชาวมุสลิมบางคนจะมองว่าเขาแปลกที่ใจดีกับสุนัข หรือว่ากล้าจับพวกมัน เขาก็ไม่สนใจเลย ขอแค่สามารถช่วยพวกมันให้มีความสุขได้ก็พอ
ต่อมา Abbas ก็ลาออกจากการเป็นวิทยากร แล้วมาเปิดศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ของตัวเองในเมือง Kota Kinabalu ชื่อว่า Helping Animals Rescue Team (HEART)
การทำงานในองค์กรไม่แสวงหาผลำไรแบบนี้ทำให้เขาต้องทำงานหนักมาก เขาต้องทำงานต่างๆ ของศูนย์ตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเย็น และดูแลสัตว์ต่อในช่วงค่ำถึงดึก แต่เขาก็มีความสุขเพราะมันเป็นงานที่เขารัก
แม้ว่าตอนนี้เขาจะอายุ 55 ปีแล้วเขาก็ยังโสดอยู่เลย เขาบอกว่าเขาไม่มีเวลาให้กับความรักหรอก เพราะแค่ดูแลลูกๆ ขนปุยก็ทำเอาเขายุ่งมากแล้ว
เขาเล่าถึงความตั้งใจในการช่วยเหลือสัตว์ว่า “นอกจากจะอยากให้ชาวมุสลิมทุกคนรู้ว่าการช่วยเหลือหมาไม่ใช่เรื่องผิด ผมก็อยากแสดงให้คนที่ไม่นับถือศาสนาอิสลามเห็นว่าชาวมุสลิมไม่ได้เกลียดหมาไปซะทุกคน”
ที่มา: World of Buzz