นี่คือ Ivar สุนัขผู้เป็นที่รักของ Krissa Wright และครอบครัวของเธอ ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันพิสูจน์ให้เห็นว่ามันเชื่อฟังและเป็นเด็กดีของครอบครัว
เพราะแบบนี้ ครอบครัวจึงไม่รู้ว่าอะไรเป็นตัวการที่ทำให้อาหารที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ในครัวถึงหายไปอยู่เรื่อย ในเมื่อไม่ใช่ฝีมือคนในบ้าน และเจ้าตูบก็เป็นเด็กดีซะขนาดนั้น
Wright บอกว่า “Ivar ไม่เคยขโมยอาหารของเรา ต่อให้เราวางอาหารบนพื้นที่มันสามารถเข้าถึงได้ มันก็ไม่แตะต้องเลย”
แต่แล้ววันหนึ่ง ความจริงก็ถูกเปิดเผย…
เมื่อเร็วๆ นี้ พ่อของ Wright ตัดสินใจติดกล้องตรวจสอบความเคลื่อนไหวพร้อมกับลำโพง ที่สามารถพูดคุยในระยะไกลได้ โดยตั้งไว้ใกล้กับถุงเนื้อแดดเดียว เพื่อจับขโมย
เมื่อไหร่ก็ตาม ที่มีคนเข้าใกล้กล้องดังกล่าว จะมีสัญญาณแจ้งเตือนในโทรศัพท์ของคุณพ่อ เมื่อนั้นแท้ ทุกคนจะได้เห็นโฉมหน้าของจอมโจรขโมยอาหาร
กระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่ทุกคนอยู่ที่ทำงาน และ Ivar อยู่บ้านเพียงลำพัง อยู่ๆ สัญญาณแจ้งเตือนในโทรศัพท์ของคุณพ่อ ก็ดังขึ้น
และนี่สิ่งที่เขาเห็น…
So my dad set up a ring camera in our kitchen to catch my dog eating our beef jerky 😂 pic.twitter.com/tiykAZkgqe
— Krissa Wright (@_Krissa__) August 20, 2019
ปรากฏว่า หัวขโมยคือ Ivar นั่นเอง… มันตกใจมากเมื่อได้ยินเสียงคุณพ่อดังขึ้นจากลำโพงที่อยู่บนเคาน์เตอร์ ในขณะที่มันกำลังจะขโมยอาหาร ถ้ามันพูดได้มันคงจะพูดว่า “อุ๊ย! โดนจับได้ซะแล้ว”
หลังจากถูกคุณพ่อสั่งให้ลงไป เจ้าตูบลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะลงจากจะเอามือลงจากเคาน์เตอร์ตามคำสั่ง… สมกับเป็นเด็กชอบเชื่อฟังจริงจริ๊ง
ตอนนี้ Ivar รู้แล้วว่ามีคนคอยจับตาดูมันอยู่ และมันคงไม่กล้าทำอีกแน่ๆ… เปล่าเลยจ้า เพราะขโมยก็คือขโมย มันฉวยโอกาสทุกครั้งที่คิดว่าไม่มีใครเห็น
มีอยู่คืนหนึ่ง คุณพ่ออยู่บ้าน เขาจึงดับกล้องไว้ มารู้อีกที เนื้อแดดเดียวหายไป 2 ถุง แน่นอนว่าไม่มีหลักฐานตอนเนื้อถูกขโมย แต่ทุกคนพอรู้ว่าเป็นฝีมือของ Ivar
ถึงอย่างนั้น ครอบครัวก็ไม่ได้ดุอะไรมัน เพราะนอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว Ivar เป็นเด็กดีและเชื่อฟังมาตลอด และคุณพ่อเองก็ได้เรียนรู้ว่าต่อให้อยู่บ้านก็ต้องเปิดกล้องไว้ แบบนี้ เจ้าตูบคงไม่มีโอกาสได้ขโมยอีกแน่นอน
ที่มา thedodo