เมื่อเด็กหญิงตัวน้อยต้องอยู่กลางป่าโดยไม่มีผู้ใหญ่ดูแล โอกาสรอดของเธอจึงดูริบหรี่ ทว่าเธอก็ไม่ได้อยู่ลำพังซะทีเดียว เธอยังมีเจ้าหมาแสนรักอยู่ด้วย และมันก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้เธอได้กลับบ้าน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 เด็กหญิง Karina Chikotova ซึ่งอาศัยอยู่กับครอบครัวใกล้ชายป่าประเทศไซบีเรียยังอายุเพียงแค่ 4 ขวบ เธอกำลังอยู่ในวัยที่มีความอยากรู้อยากเห็นอย่างเต็มเปี่ยม
ดังนั้นเมื่อพ่อของเธอออกไปสำรวจป่าและทิ้งให้เธออยู่กับคุณยาย เธอจึงแอบตามเขาไปห่างๆ ด้วย แน่นอนว่าเธอไม่ได้บอกใครเลย
คนเพียงคนเดียวที่รู้ว่าเธอแอบตามคุณพ่อออกไปจากบ้าน มีเพียงแค่เจ้าหมาแสนรัก Naida ที่ตามเธอออกมาพร้อมกัน
ทว่าหลังจากที่เธอตามคุณพ่อไปได้สักพัก เขาก็หายไปจากระยะสายตาของเธอ ทำให้เธอไม่รู้ว่าต้องเดินไปทางไหนต่อถึงจะเจอเขา และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือเธอไม่รู้ทางกลับบ้านด้วยเช่นกัน
หากเป็นการหลงป่าที่อื่น มันอาจจะฟังดูไม่อันตรายสักเท่าไหร่ แต่ในป่าแถวบ้านเธอนั้นเป็นที่อาศัยของทั้งหมีและหมาป่า อีกทั้งอากาศยังหนาวเย็นมากๆ ด้วย การที่เด็กอย่างเธอต้องเอาตัวรอดเองจึงแทบเป็นไปไม่ได้
เนื่องจากในแถบนั้นแทบไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ กว่าคุณยายและคุณแม่ซึ่งอยู่ที่บ้านจะรู้ว่าเด็กหญิงไม่ได้อยู่กับคุณพ่อที่อีกหมู่บ้านหนึ่ง ก็เป็นตอนที่คุณพ่อกลับมาอีก 4 วันให้หลังแล้ว
ทันทีที่คุณยายและคุณพ่อของ Karina รู้ว่าเธอหายไป พวกเขาจึงรีบขอความช่วยเหลือให้คนออกตามหาเธอทันที ตอนนั้นมีทีมค้นหากว่า 100 คนเลยทีเดียวที่เข้าไปในป่าเพื่อหาเด็กหญิง
แน่นอนว่าทุกคนรู้ดีว่าโอกาสที่ Karina ยังมีชีวิตอยู่นั้นมีเพียงน้อยนิด เพราะเด็กทั่วไปคงไม่สามารถเอาชีวิตรอดในป่านั้นถึง 4 วันได้
ยิ่งตอนที่พวกเขาเห็นเจ้า Naida กลับบ้านมาตามลำพังในวันที่ 9 หลังจากที่เด็กหญิงหายไป พวกเขาก็เริ่มสิ้นหวังว่าจะได้เจอเด็กหญิงอีก เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่อาจจะปกป้องเด็กหญิงให้ปลอดภัยได้
อย่างไรก็ตามทันทีที่พวกเขาได้เจอ Naida มันก็พยายามนำทางให้พวกเขาตามมันไปในป่าทันที ทีมค้นหาส่วนหนึ่งจึงตามเจ้าหมาไปในป่า
แล้วเมื่อพวกเขาตามทางที่เจ้า Naida เดินนำไปเรื่อยๆ พวกเขาก็พบรอยเท้าของเด็กผู้หญิง แล้วเริ่มค้นหาในบริเวณนั้นจนพบกับ Karina ที่นั่งขดตัวอยู่
เด็กหญิงมีรอยยุงกันตามตัวเต็มไปหมด แต่เธอไม่ได้รับอันตรายอื่นใดเลย หลังจากที่เธอได้รับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เธอก็เล่าให้ทุกคนฟังถึงการอยู่รอดในป่า
เธอบอกว่าเธอเอาตัวรอดด้วยการกินผลเบอร์รี่ตามต้นไม้ และดื่มน้ำจากแม่น้ำ ส่วนในตอนกลางคืนเธอก็เอาตัวรอดจากอากาศหนาวด้วยการนอนกอดกับเจ้า Naida
แม้ว่าในช่วงเวลา 3 วันที่ Naida หายไปจะทำให้เธอรู้สึกเหงาและกลัวมาก แต่พอมันนำทีมค้นหามาหาเธอ เธอก็รู้สึกขอบคุณมันจากใจจริง
หลังจากจบเรื่องทั้งหมด เจ้าหมา Naida ก็กลายเป็นฮีโร่ของเด็กหญิงกับครอบครัว รวมไปถึงคนในชุมชนแถบนั้นด้วย
ที่มา: Creepy World
