เมื่อ Elizabeth Feldhausen ผู้ก่อตั้ง Safe Haven Pet Sanctuary เริ่มเขียนบล็อกในหัวข้อ Anophthalmia, Microphthalmia – Cats Without Eyes? FAQs
เธอไม่ได้คิดว่าบล็อกนี้จะส่งผลดีกับแมวทั่วโลกหรอก แต่อย่างน้อย มันก็ทำให้ชีวิตของแมวตัวหนึ่งในเมือง Abu Dhabi เปลี่ยนไปตลอดกาล
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่มีหญิงที่ชื่อ Sarah Jamieson-Storozuk
Sarah กับครอบครัวได้ย้ายจากแคนาดาไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในปี 2017 ที่นั่น เธอเห็นแมวจรนับร้อย เร่ร่อนอยู่บนถนน และไม่มีศูนย์พักพิงหรือองค์ที่ให้การช่วยเหลือพวกมัน
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนมักจะปล่อยแมวตัวเองออกไปใช้ชีวิตบนถนนในช่วงฤดูร้อน ขณะที่พวกเขาไปเที่ยวต่างประเทศ และมีอีกหลายคนที่ทิ้งสัตว์เลี้ยง เพราะไม่ต้องการพวกมันแล้ว
แม้จะมีคนรักสัตว์พยายามทำทุกอย่างเพื่อแมว แต่พวกเขาก็เป็นเพียงส่วนน้อย และการระดุมทุนก็เป็นเรื่องผิดกฏหมายในประเทศนี้ด้วย
ดังนั้น ชะตากรรมของแมวจรเหล่านี้จึงขึ้นอยู่พลเมืองดี ว่าพวกเขาจะสามารถออกเงินส่วนตัวเพื่อพวกมันได้มากเท่าไหร่
ดังนั้น ชะตากรรมของแมวจรจัดหรือแมวถูกทิ้งเหล่านี้จึงขึ้นอยู่กับพลเมืองดี ว่าจะสามารถออกเงินส่วนตัวเพื่อพวกมันได้มากเท่าไหร่
จริงๆ แล้วมีกลุ่มอาสาสมัครที่ทำให้หมันให้แมวจรจัด แต่ก็ไม่ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง เพราะแบบนี้ Sarah จึงอยากหาบ้านให้แมวเหล่านี้ พวกมันจะได้ไม่ต้องเร่ร่อนบนถนนอีกต่อไป
ไม่กี่เดือนหลังจากที่ Sarah ย้ายมาอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เธอเห็นแมวอารเบียน มูว์ สีดำตัวหนึ่ง กำลังขึ้นขยะในที่ทิ้งขยะ เพื่อหาอาหาร
แต่แมวตัวนี้ไม่เหมือนแมวจรทั่วไป เพราะมันมีแผงขนาดใหญ่อยู่ที่หลัง เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ๆ Sarah พบว่าเจ้าเหมียวไม่มีดวงตาทั้งสองข้าง!
Sarah จึงจับแมวตัวนั้นไว้และพาไปหาสัตวแพทย์… คุณหมอไม่แน่ใจว่าแมวตัวนี้สามารถมองเห็นได้หรือเปล่า แต่ก่อนจะตรวจสอบเพิ่มเติม เจ้าเหมียวจำเป็นต้องรักษาแผลที่หลังก่อน
ในเวลาเดียวกันนี้ Sarah ได้ตั้งชื่อให้น้องแมวดำว่า Asher โดยหลังจากคุณหมอทำแผลให้เสร็จ เธอก็พามันกลับไปที่บ้าน
Asher ปรับตัวกับชีวิตในบ้านได้อย่างง่ายดาย มันชอบเล่น ชอบฟังเพลง และชอบปีนต้นไม้แมวอย่างกล้าหาญ ที่สำคัญ มันชอบกินขนมมากๆ
แต่ในบ้านของ Sarah มีแมวอยู่แล้วตัวหนึ่ง ซึ่ง Asher เข้ากับมันไม่ได้ และมันดูเครียดที่รู้ว่ามีแมวอีกตัว หญิงจึงรู้ว่าต้องหาบ้านใหม่ให้มัน
เธอได้ค้นหาข้อมูลและช่องต่างๆ เพื่อช่วย Asher กระทั่งมาเจอบทความของ Elizabeth
หลังจากอ่านบทความดังกล่าวจบ Sarah ก็หาวิธีที่จะพา Asher ไปยัง Safe Haven เพราะที่นั่นมีคนที่รู้วิธีดูแลมัน แต่ปัญหาคือ สถานที่ดังกล่าวอยู่ห่างออกไปถึงครึ่งโลก!
โชคดีที่เธอยังมีญาติอยู่ในแคนาดา ซึ่ง Safe Haven Pet Sanctuary อยู่ห่างจากเมืองโตรอนโตเพียง 900 กิโลเมตร และเธอสามารถพาเจ้าเหมียวไปได้
เดือนกรกฏาคม Sarah ตัดสินใจช่วย Asher อีกครั้ง โดยติดต่อกับ Elizabeth และ Safe Haven โดยตรง… หลังจากพูดคุยกันเสร็จเรียบร้อย เธอก็พร้อมจะออกเดินทางกับลูกสาวและเจ้าเหมียว
อย่างไรก็ตาม การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด เพราะพวกเขาต้องทำหนังสือเดินทางให้ Asher ต้องรอให้แผลมันหายดี ฉีดวัคซีน ทำหมัน และฝังไมโครชิป
กระทั่งเดือนกรกฏาคม ปี 2018 หรือเกือบ 1 ปีต่อมา Asher เดินทางมาถึง Save Haven Pet Sanctuary ในเมืองกรีนเบย์ รัฐวิสคอนซิน
“แมวน้อยเดินทางจาก Abu Dhabi ไปแคนาดา แล้วก็นั่งรถผ่านรัฐมิชิแกนไปยังกรีนเบย์ โดยใช้เวลาเพียง 2 วันเท่านั้น” ผู้ช่วยเหลือบอก
ภารกิจต่อมาคือการหาบ้านให้ Asher ซึ่งพวกเขาต้องใช้ความรอบคอบอย่างมาก เพราะแมวตาบอดมีโอกาสที่จะถูกทิ้งสูงมาก และพวกมันเข้ากับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นไม่ค่อยได้
อย่างไรก็ตาม ด้วยการเป็นแมวที่มีความอดทนสูง Asher อาจจะเต็มใจสำหรับการมีทาสคนเดียวกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ทั้งนี้ เด็กเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่เจ้าเหมียวควรหลีกเลี่ยง
ระหว่างที่อยู่ใน Save Haven Pet Sanctuary ทำทุกอย่างเหมือนแมวทั่วไป มันเล่นเหมือนลูกแมว และรักเสียงดนตรีมาก ซึ่งอาจเป็นเพราะการมีทักษะในการได้ยินมากเป็นพิเศษ ทำให้มันรักเสียงเพลง
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 1 วัน ในการหาบ้านที่สมบูรณ์แบบให้ Asher
เขาคนนั้นคือ เจ้าของร้านซูชิ Phin Sushi เขามีความสุขมากๆ ที่จะได้แบ่งปลาดิบให้ Asher กิน ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของแมวส่วนใหญ่
หลังจากเข้ามาอยู่ในบ้านใหม่ Asher ใช้เวลาไม่นานในการเรียนรู้ตำแหน่งต่างๆ ภายในบ้าน และดูมีความสุขมากๆ เมื่อได้เล่นกับของเล่นใหม่ที่ครอบครัวซื้อให้
ตอนนี้ ไม่มีอะไรที่ Asher ต้องกังวลอีกต่อไป มันแต่ต้องรับความรักมากมายจากครอบครัวใหม่ที่พร้อมจะมอบให้มันตลอดเวลา
ที่มา coleandmarmalade