3 เดือนก่อน Nikki Martinez และสามีของเธอไปจอดรถไว้ในละแวกลาสเวกัส เพื่อทำภารกิจ TNR (จับสัตว์จรจัดมาทำหมันและนำไปปล่อยไว้ที่เดิม)
และขณะที่กำลังจะกลับ ทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้อง พร้อมกับเดินเข้ามาหา พวกเขาจะอุ้มมันขึ้นมา แล้วพยายามมองหาพี่น้องตัวอื่นๆ ของมัน
สามีของ Nikki ตัดสินใจเดินไปดูหลังบ้านในละแวกนั้น และแล้วเขาก็พบลูกแมวตัวจิ๋ว อยู่ใต้ต้นปาล์ม “มันนอนลงบนพื้นในสภาพที่ไม่ขยับเขยื้อน และคาดว่าน่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน” Nikki บอก
เมื่อเขาอุ้มมิ้วน้อยขึ้น มันก็เริ่มส่งเสียงร้องออกมา นั่นทำให้เขารู้สึกโล่งใจมาก เพราะอย่างน้อยมันก็แสดงให้เห็นว่ายังมีชีวิตอยู่ เขาจึงรีบพามันกลับไปที่รถ โดยมีพี่น้องอีก 3 ตัวที่ตัวใหญ่กว่ามันมาก
ลูกแมวตัวจิ๋วอยู่ในภาวะวิกฤติและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ สองสามีภรรยาจึงพามันกลับบ้านด้วย ในขณะที่พี่น้องตัวอื่นๆ ถูกส่งไปที่บ้านอุปถัมภ์อีกหลังหนึ่ง
“เห็นได้ชัดว่าลูกแมวตัวนี้ ตัวเล็กที่สุดในคอก มันแทบไม่มีเรี่ยวแรง ทั้งยังไม่ยอมกินน้ำ กินอาหาร จนน้ำหนักไม่ขึ้นเลยแม้แต่น้อย เราจึงเริ่มให้อาหารมันผ่านหลอดและให้มันอยู่ในตู้อบ”
พวกเขาตั้งชื่อให้มันว่า EJ หรือชื่อเต็ม Erica Jr.
EJ ไม่ยอมดื่มนมจากขวด ซึ่งหากมันยังไม่ยอมกินอะไร มีโอกาสสูงมากที่มันจะไม่รอด แต่ Nikki ไม่ยอมแพ้ เธอยังคงป้อนนมให้มันผ่านหลอดทุกวัน เพื่อยื้อชีวิตมันไว้
เธอบอกว่า “ฉันพยายามทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ เพื่อช่วยให้มันเอาชนะความท้าทายนี้ จนกว่ามันจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น”
แม้ EJ จะอ่อนแอมาก แต่มันก็จำเสียงของ Nikki ได้เป็นอย่างดี เมื่อเธอเดินเข้ามาในห้องเพื่อป้อนอาหารให้ มิ้วน้อยจะลุกขึ้นทันที แล้วก็เดินไปที่ด้านหน้าตู้อบ ก่อนจะทำเสียงเพอร์ด้วยความตื่นเต้น
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา EJ ก็ยังคงตัวเล็กจิ๋ว และกินได้น้อย ขณะที่ Nikki กับสามีได้เฝ้าดูการเติบโตของมันทุกย่างก้าว โดยทุกครั้งที่น้ำหนักของมันเพิ่มขึ้น แม้เพียงเล็กน้อย พวกเขาก็จะฉลองให้
เมื่อ EJ โตขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย Nikki ก็พามันไปหาสัตวแพทย์ โดยหวังจะได้รับข่าวดีว่ามันพ้นจากภาวะวิกฤติแล้ว
ที่คลินิกสัตว์ คุณหมอได้ทำการเจาะเลือดมิ้วน้อย เพื่อตรวจหาสาเหตุที่มันไม่ยอมกินและกลืนด้วยตัวเอง แล้วก็พบว่ามันติดเชื้อแบคทีเรียอย่างรุนแรง
คุณหมอเริ่มรักษามิ้วน้อยด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ ในคืนเดียวกันนั้น ความอยากอาหารของ EJ ก็เพิ่มขึ้น และน้ำหนักเพิ่มขึ้นในเวลาต่อมา จนกระทั่งพ้นภาวะวิกฤติ
เมื่ออายุได้ 5 สัปดาห์ EJ ก็แข็งแรงพอที่จะเล่นกับของเล่น และทำทุกอย่างเหมือนลูกแมวทั่วไป “เมื่อเห็นมันกินด้วยตัวเอง ฉันดีใจจนแทบจะบรรยายความรู้สึกนั้นไม่ได้ ตาของฉันเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา” Nikki บอก
EJ กลายเป็นลูกแมวตัวใหม่ มันเริ่มทำข้าวของต่างๆ ตกจากโต๊ะหรือเคาน์เตอร์ มันเดินข้ามแป้นพิมพ์ ขณะที่แม่อุปถัมภ์กำลังทำงาน และชอบทำตัวตลกๆ
และแล้วเมื่อ EJ น้ำหนักถึง 400 กรัม พวกเขาก็จัดปาร์ตี้ฉลองให้มัน ทุกคนรู้สึกภูมิใจในตัวมันมาก และไม่กี่สัปดาห์ต่อมา น้ำหนักของมันก็เพิ่มขึ้นเป็น 900 กรัม
นั่นหมายความว่าถึงเวลาที่จะต้องปล่อยมันไปแล้ว
Nikki บอกว่า “ในฐานะผู้อุปถัมภ์ เราทุ่มเทให้กับสัตว์เลี้ยงทุกตัวที่ต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้น การได้เห็นพวกมันเติบโตและมีความสุข ถือเป็นเงินเดือนของเรา”
ไม่กี่วันต่อมา EJ ได้พบกับครอบครัวตลอดกาล ที่เดินทางมาจากรัฐเนบราสก้า เพื่อรับเลี้ยงมัน โดย Nikki ได้ไปส่งมันที่สนามบิน และวันนั้นเป็นวันพิเศษที่เธอจะไม่มีวันลืมเลย
EJ ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ที่เต็มไปด้วยความรัก ความสุข และความสนุกสนานมากมาย แถมยังมีเพื่อนๆ เหมียวอีก 2 ตัว เป็นเพื่อนเล่นให้มันด้วย
ติดตาม EJ ได้ที่อินสตาแกรม chipskitties
ที่มา lovemeow